ชุดที่ 1

1. ค. คุณสามารถจอดรถไว้ได้จนถึงวันจันทร์

2. ก. A

3. ก. ไม่ต้องวาง

4. ก. ถนนกึ่งมอเตอร์เวย์

5. ค. จ่ายเช้าวันจันทร์ เวลา 9.00 น.

6. ค. วันเวย์

7. ข. ประมาณ 100 เมตร

8. ก. น้ำ และน้ำยาไกลโคล

9. ข. สิ่งที่อยู่กับที่

10. ข. ทุก 14 เดือน

11. ก. เบรกมีปัญหา

12. ค. ทุกคนที่อยู่บนถนน

13. ค. ไม่ให้มีเลย

14. ก. ได้

15. ก. เหมือนกัน

16. ก. ความเสี่ยงเรื่องพื้นถนนลื่นจะเพิ่มมากขึ้นเมื่อฝนเริ่มตก

17. ก. เขาต้องการข้ามถนน

18. ค. การมองเห็น

19. ก. ได้ – หากคุณเป็นต้นเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ

20. ข. 3 เท่า

21. ค. สัญญาณจากตำรวจ

22. ก. น้ำมันที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็ง ซึ่งมีอยู่ในยางรถยนต์บางชนิด

23. ก. หยุดใกล้ปากทางที่จะออกสู่ถนนให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

24. ก. 1-2 เปอร์เซ็นต์

25. ข. การติดเครื่องยนต์ทิ้งไว้ขณะที่รถจอดนิ่งๆ

26. ข. ปกติแล้วจะห้ามจอดบนทางเอกในทุกพื้นที่ แต่ก็มีข้อยกเว้นบ้างเป็นบางกรณี

27. ก. แซงได้

28. ค. สามเหลี่ยม

29. ข. ไม่ได้

30. ค. ไม่ได้ 

31. ข. ต่างกัน – คุณสามารถขับแซงเครื่องจักรทำถนนทางไหนก็ได้ ถ้าทางนั้นมีความปลอดภัยที่สุด

32. ข. ไฟต่ำ

33. ก. ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษก่อนขับผ่าน

34. ค. ในวงเวียน

35. ข. ห้ามจอด

36. ก. ป้ายรถเมล์

37. ค. 400-600 องศาเซลเซียส

38. ข. 80 กม./ชม.

39. ก. 20 นาที

40. ค. เขาไม่มีสิทธิ์สั่งให้หยุดรถ

41. ข. เส้นให้ทาง

42. ข. เพราะว่ามันจะทำให้เกิดการต้านลมมากขึ้น และทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันหรือพลังงาน

43. ค. ถูกทุกข้อ

44. ก. จำเป็น – นายเอต้องแสดงออกอย่างชัดเจนว่านายเอตั้งใจจะให้ทางรถคันอื่นไปก่อน ด้วยการลดความเร็วลงก่อนถึงทางแยก

45. ค. น้ำ (Vatten) และคาร์บอนไดออกไซด์ (Koldioxid)

46. ข. ในที่ที่ห้ามหยุด จะมีการห้ามจอดด้วยเสมอ

47. ข. 1 ชั่วโมง

48. ก. ต้องรอจนกว่าขบวนประท้วงจะพ้นไปก่อน

49. ข. เติมความดันลมยางให้สูงกว่าที่ผู้ผลิตแนะนำไว้นิดหน่อย

50. ก. เกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงของเครื่องยนต์ ทั้งเชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์และเชื้อเพลิงชีวภาพ  

51. ก. มี – เช่น ห้ามผู้ที่ถูกขับแซงเร่งความเร็วขณะที่กำลังมีรถขับแซงตนมา เป็นต้น

52. ข. การเหยียบเบรกแรงๆ

53. ข. การคุยโทรศัพท์ทำให้คุณหันเหความสนใจไปจากการขับขี่

54. ข. 1,0 พีพีเอ็ม (promille)

55. ข. ไม่ดี เพราะจะเป็นการใช้พลังงานไฟฟ้าโดยเปล่าประโยชน์

56. ข. ได้  – แต่ว่าแค่ชั่วคราวเท่านั้น

57. ค. ไฮโดรคาร์บอน (Kolväten) และไนโตรเจนออกไซด์ (Kväveoxid)

58. ก. ผู้ขับขี่ที่มีประสบการณ์

59. ก. ชดเชยความบกพร่องนั้นด้วยการหลีกเลี่ยงถนนบางสาย

60. ข. จริง – หากสารเสพติดในเลือดดังกล่าวมาจากยาที่แพทย์สั่งจ่ายให้ผู้ขับขี่คนนั้นใช้

61. ข. เด็กยังกะระยะไม่เป็นเหมือนผู้ใหญ่

62. ข. 180 องศา

63. ข. ผู้โดยสาร

64. ค. 3,000 รอบ/นาที

65. ข. ประมาณ 1 วินาที

ชุดที่ 2

1. ข. ถนนเส้นนี้สามารถนำคุณไปสู่ถนนหมายเลข E4, 77, 288 และ 290 ได้

2. ข. เลนกลาง เพราะเลนขวาเป็นเลนสำหรับรถบัส

3. ค. เลนซ้ายหรือเลนกลางก็ได้

4. ค. เมื่อจะขับออกมาจากที่จอดรถ ปั๊มน้ำมัน หรือสถานที่ที่มีลักษณะใกล้เคียง คุณมีหน้าที่ต้องให้ทางรถคันอื่นๆ ที่วิ่งอยู่บนถนน

5. ก. เขามักจะประเมินความสามารถของตัวเองสูงเกินไป

6. ข. ให้จอดรถเรียงกันตามลักษณะที่ป้ายแสดง

7. ก. อาการที่คุณหมุนพวงมาลัยนิดเดียวเวลาเข้าโค้ง แต่รถเลี้ยวโค้งมากกว่าที่ควรจะเป็น  

8. ค. ขับไปอีก 500 เมตร แล้วเลี้ยวซ้าย

9. ข. เขามักจะทำตามแรงกดดันจากกลุ่มอย่างง่ายดาย

10. ก.  โอโซน (Ozon)

11. ก. 1,800 กก.

12. ก. เกิดภาพลวงตา

13. ข. ป้องกันไม่ให้น้ำในระบบหล่อเย็นเกิดการแข็งตัวในฤดูหนาว

14. ค. ระยะปฏิกริยา + ระยะเบรก

15. ค. สายตาจะพร่ามัวเป็นระยะเวลาสั้นๆ แล้วกลับมาเหมือนเดิม

16. ข. ช่วยป้องกันล้อล็อกเมื่อมีการเหยียบเบรกอย่างแรง

17. ข. อาการที่เวลาเข้าโค้งคุณต้องหมุนพวงมาลัยมากกว่าปกติเพื่อให้รถเลี้ยวในระดับที่คุณต้องการ

18. ค.  ใช้กับทั้งรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยล้อหน้าหรือล้อหลัง

19. ก. ณ จุดที่รถสวนกัน

20. ค. ความดันน้ำมันเครื่องผิดปกติ

21. ก. ประมาณ 25 เมตร

22. ก. อาการที่รถวิ่งบนผิวน้ำแทนที่จะวิ่งสัมผัสกับพื้นถนน และทำให้การบังคับรถเป็นไปได้ยาก

23. ข. คุณไม่จำเป็นต้องลดไฟสูงลงเมื่อขับสวนกับคนเดินเท้าบนถนน

24. ค. ประมาณ 80 เมตร

25. ข. ไม่ได้ เช่น ไม่ให้เปิดไฟสูงในเวลากลางวันซึ่งมีแสงสว่างดี

26. ค. การเปิดไฟสูงประมาณ 5 เมตร ก่อนถึงจุดที่รถจะสวนกัน

27. ค. พื้นผิวถนนมีหิมะ น้ำแข็ง โคลนหิมะ หรือเกร็ดน้ำค้างแข็งปกคลุมทั้งหมดหรือเป็นบางส่วน

28. ก. ได้

29. ก. เฉพาะไฟต่ำ

30. ค. ไม่ควร – เพราะมันอาจจะเกิดโทษมากกว่าประโยชน์

31. ข. การที่ฝนเกิดการแข็งตัวเป็นน้ำแข็งทันทีเมื่อตกลงกระทบพื้น

32. ข. คนปั่นจักรยาน และคนขี่รถป๊อปประเภท 2 ถ้าหากที่ตรงนั้นไม่มีทางจักรยาน

33. ข. ไม่จริง

34. ข. บนถนนลาดยางมะตอยในตอนที่ฝนเริ่มตก

35. ก. ช่วงเวลารุ่งเช้าหรือพลบค่ำ

36. ค. ยางรถยนต์ที่เสื่อมสภาพ

37. ค. ได้ – แต่ต้องขับออกจากถนนมอเตอร์เวย์โดยเร็วที่สุด

38. ค. สามารถขับแซงพาหนะทุกชนิดได้

39. ข. 50 กม./ชม.

40. ค. ระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม ถึง 31 มีนาคม

41. ค. ประมาณ 125 เมตร

42. ก. ลดความเร็วลงและหยุดการแซง

43. ก. ให้ขับฝ่าเครื่องกั้นออกไปเลย เพราะเครื่องกั้นนั้นถูกสร้างด้วยวัสดุที่สามารถขับทะลุได้โดยง่ายอยู่แล้ว

44. ข. อนุญาตให้จอดได้เฉพาะในที่จอดรถที่จัดไว้เป็นพิเศษเท่านั้น

45. ข. 70 กม./ชม.

46. ข. ลดความเร็วลง

47. ค. การเลี้ยวซ้ายบนถนนนอกเมือง

48. ก. เลนพิเศษสำหรับแซงบนทางเนิน

49. ก. กฎขวามือ

50. ค. หากคุณต้องการขับออกจากไหล่ทางเพื่อเข้าไปยังทางเดินรถ คุณมีหน้าที่ต้องให้ทางแก่ผู้ขับขี่ที่ขับอยู่บนทางเดินรถไปก่อน

51. ก. การแซงแบบโฉบ

52. ค. ทั้งคนปั่นจักรยานและคนเดินเท้า

53. ข. ไม่ – เพราะคุณเบรกและทำให้รถหยุดอยู่นิ่งๆ เพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ

54. ก. M18-1

55. ก. เขตชุมชน

56. ก. ได้

57. ข. อาจจะไม่มีป้ายเตือนล่วงหน้าติดไว้

58. ค. 4 เท่า

59. ข. 5 – 75 เมตร

60. ข. ประมาณ 20 เมตร

61. ข. ไม่ต้องทำอะไร เพราะถือว่าเป็นเรื่องปกติ

62. ข. ปกติจะตั้งข้อหาขับขี่ขณะมึนเมา อย่างร้ายแรง

63. ค. หันศีรษะไปมองด้านข้าง

64. ค. กฎการขับออกสู่ถนน

65. ก. ให้ – เพราะจักรยานก็ถือว่าเป็นพาหนะ

ชุดที่ 3

1. ข. ได้

2. ข. รถที่ใช้ในการเกษตร ประเภท 1 และจักรยานยนต์สามล้อ

3. ข. ผู้ฝึกสอนขับส่วนตัวจะต้องมีใบอนุญาตฝึกสอนขับ

4. ก. ได้

5. ข. ได้ หากน้ำหนักของทั้งรถยนต์และคาราวานรวมกันแล้วไม่เกิน 3.5 ตัน

6. ข. การขับฝ่าสัญญาณไฟแดง

7. ก.ปกติแล้วป้ายห้าม (förbudsmärke) จะมีผลบังคับตั้งแต่จุดที่ป้ายตั้งอยู่ไปจนถึงทางแยกถัดไป

8. ก. มีผลบังคับใช้

9. ก. ได้

10. ข. ได้ เฉพาะกรณีที่มีป้ายระบุไว้

11. ก. ต้องเปิด

12. ค. พยายามตั้งป้ายคืนให้เหมือนเดิม

13. ข. นายเอจะต้องให้ทางรถที่อยู่บนเลนดังกล่าว

14. ค. ขับได้ทั้งรถยนต์นั่งส่วนบุคคล และรถบรรทุกขนาดเบา

15. ก. แสดงความเกรงใจและเคารพสิทธิของผู้ร่วมจราจรอื่น ตลอดจนผู้อยู่ข้างทาง และผู้อยู่อาศัยในบริเวณใกล้เคียง

16. ค. สัญญาณจากตำรวจ

17. ค. ห้ามกีดขวางหรือรบกวนผู้ร่วมจราจรอื่นๆ โดยไม่มีเหตุจำเป็น

18. ค. บนทางเอกจะมีการห้ามจอดเสมอ ไม่ว่าจะเป็นในเมืองหรือนอกเมือง

19. ก. ได้เสมอ

20. ค. ก่อนถึงทางม้าลาย จะต้องจอดห่างจากทางม้าลายอย่างน้อย 10 เมตร

21. ค. กฎขวามือหมายความว่าเราต้องให้ทางรถที่มาจากทางด้านขวามือของเรา

22. ข. ไม่ได้

23. ข. การจอดรถต้องจอดหันหน้ารถไปตามทิศทางการเดินรถ

24. ข. ให้คนเดินเท้าเดินข้ามถนนบริเวณทางม้าลายนั้นได้ แม้ว่าจะเป็นการกีดขวางรถยนต์ก็ตาม

25. ข. นายบีหยุดเพื่อรอรับเพื่อนที่นัดกันไว้

26. ข. สัญญาณจากตำรวจ

27. ข. เนื่องจากทางม้าลายตรงนั้นไม่มีสัญญาณไฟกำกับ เราจึงต้องหยุดให้คนเดินเท้าข้ามถนนไปก่อน

28. ค. นายขาวหยุดรถเพื่อคุยโทรศัพท์

29. ก. ห้ามจอดตรงป้าย หรือภายในบริเวณ 20 เมตรก่อนถึงป้าย และ 5 เมตรหลังป้าย

30. ก. เฉพาะผู้ที่มีใบอนุญาตพิเศษเท่านั้น

31. ก. ชิดซ้าย

32. ก. ตรงทางแยก

33. ก. ให้ขับได้โดยใช้ความเร็วให้เท่ากับการเดินเท่านั้น

34. ข. ไม่ทัน

35. ก. เมื่อหยุดรถใกล้ๆ กับตู้เอทีเอ็มเพื่อกดเงิน

36. ก. มองทะลุกระจกหน้าของรถคันต่างๆ ที่อยู่ด้านหน้าเรา เพราะหากรถคันต้นๆ แถวเริ่มเบรก เราจะได้มองเห็นแต่เนิ่นๆ

37. ข. เมื่อจอดรถในความมืดบนทางที่ไม่มีไฟถนน

38. ค. ขับแซงรถคันอื่นบนทางเนินได้

39. ก. ได้ หากการเดินข้ามถนนดังกล่าวไม่ก่อให้เกิดอันตราย หรือขัดขวางการจราจร

40. ค. ขับอย่างระมัดระวังเป็นพิเศษ

41. ข. จอดรถ

42. ค. ขับช้าพอที่เราจะสามารถหยุดก่อนถึงทางรถไฟได้ หากจำเป็น

43. ก. บริเวณทางลงเนิน (เพราะเวลาขึ้นเนิน รถบรรทุกของหนักจะขับช้ากว่าปกติ และรถเราคันเล็กกว่าจะเร่งเครื่องได้ง่ายกว่า ทำให้แซงได้ง่ายกว่าปกติ ส่วนตอนลงเนินรถบรรทุกจะขับเร็วกว่าปกติ การที่เราจะแซงเขาจึงต้องใช้ระยะแซงยาวกว่าตอนขึ้นเนิน)

44. ก. นายเอหยุดรถเพื่อรอนายบี ที่จะขอติดรถไปด้วย

45. ค. สภาพพื้นผิวถนน (väglag) และทัศนวิสัย

46. ค. การประเมินความเร็วของรถคันที่วิ่งสวนมา

47. ค. บริเวณที่หากเราหยุดรถแล้วรถของเราจะไปบดบังป้ายจราจรหรือสัญญาณไฟจราจร

48. ค. กรณีที่จอดข้างทางที่จำกัดความเร็วไว้มากกว่า 50 กม./ชม.

49. ค. เราสามารถขับแซงรถบดทางขวามือได้ หากเห็นว่าปลอดภัย

50. ค. การประเมินความเร็วของรถที่กำลังขับสวนมา

51. ค. ทางเส้นนั้นอาจจะไม่มีการติดตั้งป้ายจราจรที่สำคัญๆ ที่ปกติถนนทั่วไปมักจะมี

52. ค. อำนวยความสะดวกให้กับคนที่ขับแซง แม้เขาจะทำผิดกฎก็ตาม

53. ก. ทำเครื่องหมายไว้ ณ จุดเกิดอุบัติเหตุ แล้วแจ้งให้ตำรวจทราบ

54. ก. หยุดบริเวณก่อนที่จะขับออกสู่ถนนที่มีเส้นทางเดินรถตัดกับถนนที่นางสวยขับมา (korsande väg) โดยเลือกหยุดตรงจุดที่สามารถมองเห็นทางได้ดีที่สุด

55. ก. หากไม่มีเส้นทึบตรงขอบถนน ก็สามารถใช้ไหล่ทางเพื่ออำนวยความสะดวกให้คนที่ต้องการขับแซงรถเราได้

56. ก. บนถนนกึ่งมอเตอร์เวย์ก็ห้ามถอยรถเช่นกัน

57. ค. ณ จุดที่รถสวนกันพอดี

58. ข. ไม่ได้

59. ก. ผู้ขับขี่ขับเร็วเกินไป จึงหยุดรถไม่ทัน

60. ค. ทางที่ปกคลุมไปด้วยใบไม้เปียกๆ

61. ค. ไฟต่ำ (halvljus)

62. ค. ไฟจอด (parkeringsljus)

63. ค. ถนนที่โรยด้วยกรวดอัดบดจนแน่น

64. ข. ระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม ถึง 31 มีนาคม จะต้องใช้ยางรถยนต์สำหรับฤดูหนาว ซึ่งจะใช้ยางแบบฝังหมุดหรือไม่ฝังหมุดก็ได้

65. ก. เมื่อมีหมอกลงจนทำให้ทัศนวิสัยไม่ดี มองไม่ค่อยเห็นทาง

ชุดที่ 4

1. ก. เมื่อขับสวนกับคนปั่นจักรยาน

2. ก. หากเราถูกไฟแยงตา ระยะการมองเห็นอาจจะเหลือแค่ 0 เมตร (มองไม่เห็นอะไรเลย)

3. ข. ไฟต่ำ (halvljus)


4. ก. ประกันภัยจราจร (trafikförsäkring) 

5. ข. สีแดง

6. ข. เมื่อขับในบริเวณลานจอดรถ

7. ก. ความเร็วเพิ่มขึ้นสองเท่า ทำให้ระยะปฏิกริยาเพิ่มขึ้นสองเท่า

8. ข. ถ้ามองในแง่ของสิ่งแวดล้อมแล้วยางความฝืดสูงจะส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม “น้อยกว่า” ยางฝังหมุดโลหะ

9. ค. รถยนต์คันนั้นจะถูกห้ามใช้ขับไปโดยปริยาย (automatiskt)

10. ค. ยางรถสึกหรอเป็นหย่อมๆ ไม่สม่ำเสมอ

11. ก. ไฟจอดและไฟท้าย

12. ค. ระยะปฏิกริยา และระยะเบรกรวมกัน

13. ก. เมื่อมีหมอกลงจนทำให้ทัศนวิสัยแย่ (มองไม่เห็นทาง)

14. ก. เพราะน้ำมันเบรกจะดูดความชื้นจากภายนอก ทำให้ประสิทธิภาพของน้ำมันลดลง

15. ค. เพิ่มขึ้น 9 เท่า

16. ข. เพิ่มขึ้น 4 เท่า

17. ก. เพิ่มขึ้น 3 เท่า

18. ก. แอลกอฮอล์ – ระบบหล่อเย็น

19. ก. หากแรงกดตรงดุมโลหะน้อยเกินไป (för lågt kultryck) ทำให้กระบะพ่วงส่ายหรือเลื้อยไปตามทาง 

20. ก. ยางประเภทนี้ขูดผิวถนนน้อยกว่ายางฝังหมุด

21. ก. เวลาที่รถบรรทุกพ่วงด้วยกระบะพ่วงจะเลี้ยว มักจะกินพื้นที่มาก บางครั้งอาจจะต้องกินเลนมากกว่าหนึ่งเลน จึงจะเลี้ยวได้ หากเราขับอยู่ข้างๆ เราอาจถูกเบียด

22. ก. สูงสุด 1 นาที

23. ข. คาร์บอนมอนน็อกไซด์ (kolmonoxid/koloxid) และไฮโดรคาร์บอน (kolväten)

24. ค. สิ่งของที่บรรทุกและวิธีการบรรทุกส่งผลต่อปริมาณการใช้เชื้อเพลิงของรถ

25. ค. คาร์บอนไดออกไซด์ที่รถยนต์ปล่อยออกมาก่อให้เกิดภาวะเรือนกระจก

26. ค. คาร์บอนไดออกไซด์ (koldioxid)

27. ข. คาร์บอนมอนน็อกไซด์ (koloxid/kolmonoxid)

28. ข. บริเวณที่น้ำล้างรถไหลไปสู่ท่อน้ำทิ้ง (avlopp) ที่มีตัวแยกน้ำมัน

29. ข. การที่สารพิษจากควันไอเสียรถยนต์มีส่วนทำให้อุณภูมิของโลกเพิ่มสูงขึ้นกว่าที่ควรจะเป็น

30. ก. การเร่งเครื่องอย่างแรง มีผลต่อปริมาณควันไอเสียที่รถปล่อยออกมาสู่สิ่งแวดล้อม

31. ข. สัมภาระที่ขนไปกับรถมีผลต่อความสิ้นเปลืองน้ำมัน

32. ข. คาร์บอนไดออกไซด์ที่ปะปนอยู่กับควันไอเสียรถยนต์ ทำให้เกิดภาวะเรือนกระจก

33. ข. เครื่องยนต์ยิ่งใหญ่ ยิ่งเปลืองน้ำมัน

34. ข. ได้ หากนายเอเป็นต้นเหตุหรือเกือบจะเป็นต้นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุ

35. ข. เมื่อขับเข้าใกล้จุดตัดกับทางรถไฟ (järnvägskorsning) ที่ผู้ขับขี่ทราบว่ามักจะมีรถไฟวิ่งผ่านไปมาเสมอ ผู้ขับขี่จะขับช้าๆ และมองทางอย่างละเอียด

36. ก. งดการขับรถโดยสิ้นเชิง

37. ก. 0.5 – 1 วินาที

38. ข. 1.0 พีพีเอ็ม

39. ก. 0.2 พีพีเอ็ม

40. ข. เมื่อขับผ่านทางแยกที่ทัศนวิสัยดีและมักจะไม่ค่อยมีรถผ่าน จะทำให้เราขับเร็วโดยอัตโนมัติ

41. ข. วัยรุ่นชายมักจะประเมินความสามารถในการขับขี่ของตนเองสูงกว่าความเป็นจริง

42. ข. ตอนขับออกจากมอเตอร์เวย์

43. ข. ความเสื่อมของสายตามักจะมาทีละน้อย ทำให้เราไม่ค่อยรู้ตัวว่าสายตาแย่ลง

44. ค. หากมีผู้บาดเจ็บสาหัส จะสามารถเคลื่อนย้ายรถคันที่ประสบอุบัติเหตุได้ ก็ต่อเมื่อ หากทิ้งไว้แล้ว รถคันดังกล่าวอาจก่อให้เกิดอันตรายได้

45. ก. นายบีต้องหยุดรถ และรออยู่ที่จุดเกิดเหตุ เพื่อช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น

46. ค. ฝนที่ตกหลังช่วงที่มีอากาศร้อนและแห้งเป็นเวลานาน ทำให้ถนนลื่นได้

47. ข. ให้ทางรถทุกคันที่อยู่บนทางเดินรถ

48. ค. ต้องระวังและป้องกันไม่ให้ผู้ที่ไม่มีสิทธิ์ขับรถคันนั้นสามารถใช้รถได้

49. ข. ขับเร็วเกินไป ทำให้หยุดไม่ทัน

50. ข. ไม่ได้

51. ค. 3.5 ตัน

52. ข. ไม่ได้

53. ข. ประมาณ 60 เมตร

54. ก. ได้

55. ค. ควร เพราะหากรถบรรทุกต้องหยุดเพื่อให้ทาง แล้วพอจะออกตัวอีกครั้งบนทางเนินที่ชันอย่างนั้น รถจะออกตัวยากมาก

56. ก. แผ่นป้ายสามเหลี่ยมฉุกเฉิน (varningstriangel)

57. ก. ทะเบียนรถส่วนสีฟ้า ซึ่งแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับรถ

58. ค. รถโดยสารทั่วไป ไม่ประจำทาง

59. ข. การข้ามเกียร์

60. ก. ได้ แต่ให้นั่งแค่ระยะทางสั้นๆ และต้องนั่งเบาะหลังเท่านั้น

61. ข. เวลาฝนตก ยางที่ดอกยางเสื่อมจะเกาะถนนได้ไม่ดีเท่ายางใหม่

62. ข. ความเร็ว “สูงสุด” ที่แนะนำ

63. ค. ชะลอความเร็วลง  จากนั้นมองทางทั้งด้านซ้ายและขวา แล้วจึงลดเกียร์ลง และรีบขับข้ามทางรถไฟอย่างรวดเร็ว

64. ค. มีทั้งแบบที่อยู่ทางซ้าย และแบบที่อยู่ทางขวา

65. ค. เลนที่เหมาะกับจุดหมายปลายทางที่นายเอจะไป

ซื้อข้อสอบใบขับขี่ได้ที่ไหน

คำตอบคือ – ซื้อไม่ได้ค่ะ ใครขายคือผิดกฎหมายแน่นอน ข้อสอบเป็นความลับของทางราชการ ห้ามนำมาเผยแพร่ต่อ (ดูลิงค์อ้างอิงได้ที่ด้านล่าง)

ถาม – เตรียมสอบอย่างไรให้ผ่าน

ตอบ –

อ่านหนังสือเยอะๆ ทำความเข้าใจ และทำแบบฝึกหัด เพื่อฝึกการวิเคราะห์

หากอ่านเก่ง และมีเวลามาก แนะนำหนังสือ ”คู่มือสอบใบขับขี่ ภาษาไทย ฉบับ 2025”

ซึ่งเป็นหนังสือสอบใบขับขี่สวีเดน ที่สมบูรณ์ที่สุดในท้องตลาด ฉบับล่าสุดคือ 2025

มีทฤษฎีใบขับขี่สวีเดน และแบบฝึกหัด ใช้ฝึกอ่านให้ทัน อ่านให้ทัน และ อ่านจับใจความได้ถูก

เพราะเวลาสอบ เราจะต้องอ่าน และทำความเข้าใจโจทย์ และคำตอบเอง (หากไม่ใช้ล่าม)

หากต้องการปรึกษา และ วางแผนสอบใบขับขี่ ให้ผ่านภายในครั้งเดียว

ติดต่อมะกรูดได้ที่ Facebook: Magrood Bergamot

หรือโทรหาครูกิ๊ก ครูสอนขับรถคนไทย ในสวีเดนได้ที่ 076-567 3481

สิ่งที่ควรทำที่สุด คือ ฝึกขับรถตั้งแต่ปีแรก ที่ย้ายมาอยู่สวีเดน และอ่านหนังสือใบขับขี่สวีเดน ควบคู่ไปด้วย

เพื่อจะได้เข้าใจกฎจราจร และป้ายจราจร และขับให้ถูกกฎตั้งแต่ต้น

หนังสือเล่มนี้จะแนะนำเคล็ดลับให้ท่านประหยัดค่าใช้จ่าย ในการทำใบขับขี่สวีเดน เคล็ดลับนี้ชื่อว่า ”รู้เขา รู้เรา รู้รถ”

หากต้องการถามคำถาม เรื่องใบขับขี่ และเทคนิคการขับ จากครูสอบขับรถคนไทยในสวีเดน

แนะนำให้สมัครคอร์ส VIP ติวใบขับขี่กับครูกิ๊ก ซึ่งคุณจะได้สิทธิ์ดูคลิปทฤษฎีใบขับขี่สวีเดน เป็นภาษาไทย และได้พบครูและเพื่อนๆ คนไทยเกือบทุกอาทิตย์ (พบครู 4 อาทิตย์ พัก 1 อาทิตย์) เพื่อฝึกวิเคราะห์ภาพสถานการณ์การจราจรในสวีเดน

นอกจากนี้แล้ว คุณยังสามารถถามคำถามครูได้ตลอดเวลา 1 ปี ที่เป็นสมาชิกคอร์ส

อ่านเรื่องขั้นตอนการทำใบขับขี่ได้ที่ ลิงก์นี้

ข้อมูลอ้างอิงเรื่อง ข้อสอบใบขับขี่ ที่เป็นข้อมูลที่ต้องเก็บเป็นความลับที่มา: Lawline

ชุดความคิด หรือ มายด์เซต เพื่อเด็ดใบขับขี่สวีเดน

การทำใบขับขี่สวีเดน เป็นด่านที่สำคัญสำหรับการใช้ชีวิตในสวีเดน เพราะกระบวนการเรียนการสอน และการสอบ ออกแบบมาเพื่อปรับ “มายด์เซต” หรือชุดความคิดของผู้ขับขี่ ให้เป็นผู้ที่ขับขี่ได้อย่างปลอดภัย และใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม นั่นหมายความว่า การรู้กฎจราจรอย่างเดียว ไม่เพียงพอ แต่เราต้องรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในการขับขี่

หากคุณอ่านหนังสือเล่มนี้ แล้วสามารถตอบตัวเองได้ว่า อะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในการขับขี่ในสวีเดน และอะไรคือองค์ประกอบที่จะบรรลุเป้าหมายนั้น ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ คุณมาถูกทางแล้ว

หากต้องการพี่เลี้ยง ที่ช่วยตอบคำถาม ให้คำแนะนำเพิ่มเติม และช่วยปรับมายด์เซต  เพื่อเด็ดใบขับขี่สวีเดนมาครอบครองง่ายๆ แนะนำให้ติดต่อครูกิ๊ก ครูสอนขับรถคนไทยในสวีเดน ได้ที่ 076-567 3481 หรือที่ Magrood.se ทุกแพลตฟอร์ม

ขอให้โชคดี และสนุกกับการหาความรู้ เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยในสวีเดนค่ะ

ทางเลือก และขั้นตอนการทำใบขับขี่

ก. ผ่านโรงเรียน

  • อบรม Risk 1
  • อบรบ Risk 2
  • สอบทฤษฎี
  • สอบขับ

(ใช้รถของโรงเรียน)

ข. ทำเองทุกอย่าง

  • อบรม Introduktion
    • นักเรียน
    • ครูฝึกส่วนตัว
  • อบรม Risk 1
  • อบรบ Risk 2
  • สอบทฤษฎี
  • สอบขับ

(ใช้รถของศูนย์สอบ)

ค. ทั้ง ก + ข รวมกัน

ข้อดีคือ

  • ได้เทคนิคที่ถูกต้อง
  • เน้นฝึกขับต่อที่บ้านเยอะๆ
  • ประหยัด
  • มีประสิทธิภาพสูงสุด

วางแผน และเตรียมตัวสอบใบขับขี่สวีเดน คลิกดูรายละเอียดได้ที่นี่ค่ะ


Lämna ett svar

Din e-postadress kommer inte publiceras. Obligatoriska fält är märkta *